สถานที่ที่มีสีสันที่สุดในโลก

instagram viewer

มีอาคารที่โดดเด่นมากมายในสิงคโปร์ แต่สถานที่ท่องเที่ยวในลิตเติลอินเดียแห่งนี้อาจทำให้เค้กมีสีสันมากที่สุด บ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในวิลล่าจีนหลังสุดท้ายในลิตเติลอินเดีย สร้างขึ้นในปี 1900 โดยนักธุรกิจชาวจีนที่มีโรงงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หลายปีต่อมาได้รับการบูรณะด้วยจานสีที่มีสีสันและปัจจุบันเป็นที่ตั้งของธุรกิจในท้องถิ่นหลายแห่ง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ คณะกรรมการมรดกแห่งชาติ และ คู่มือสิงคโปร์»

ใครจะรู้ว่าสวรรค์อันมีสีสันกำลังนอนอยู่ในทะเลสาบเวนิส? เข้าถึงได้โดยเรือโดยสารจากเวนิสและมูราโน เมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ยังขึ้นชื่อด้านการผลิตลูกไม้ โดยผู้เข้าชมจะแห่กันไปที่พิพิธภัณฑ์ลูกไม้และร้านค้าต่างๆ

อ่านเพิ่มเติมที่ Isola di Burano »

โรงแรมที่โดดเด่นแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในทะเลทราย ผสมผสานสไตล์กลางศตวรรษกับจานสีที่ทันสมัยซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดอกไม้ทะเลทรายพื้นเมือง ด้วยร้านอาหาร ปาร์ตี้ริมสระน้ำ และห้องพักมีสไตล์ โรงแรมบูติกแห่งนี้จึงเป็นโอเอซิสแห่งสีสัน

อ่านเพิ่มเติมที่โรงแรม JDV »

Auditorium Rainier III ศูนย์ศิลปะการแสดงของโมนาโกที่มองเห็นวิวทะเล มีความประหลาดใจที่สดใสบนหลังคา "Hexa Grace" เสร็จสมบูรณ์ในปี 1979 โดย Victor Vasarely ศิลปิน Op-Art และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางเรขาคณิต

insta stories

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Visit Monaco »

ไม่เพียงแต่จะดูดีเท่านั้น แต่อาคาร Pixel ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย อาคารที่ปราศจากคาร์บอนแห่งแรกของออสเตรเลียสามารถเก็บน้ำและผลิตพลังงานได้ด้วยตัวเอง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Inhabitat »

ตั้งอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม the โรงแรมแพนโทน ออกแบบโดย Michel Penneman และ Olivier Hannaert และมีห้องพัก 59 ห้องในโทนสีเข้ม รับประกันว่าคุณสามารถหา Marsala และ Radiant Orchid ได้ที่นี่

ก้าวเข้าสู่ภายในโรงแรม »

Alex Brewer ศิลปินร่วมสมัยในแอตแลนตา (หรือที่รู้จักในชื่อ HENSE) ได้รับมอบหมายให้วาดภาพจิตรกรรมฝาผนังบนพื้นที่ประวัติศาสตร์ โบสถ์ในวอชิงตัน ดี.ซี. ผลลัพธ์ที่ได้คือการออกแบบนามธรรมด้วยรูปทรงและลวดลายที่สนุกสนาน ทำให้เกิดความสุข

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ELLE Decor »

Notting Hill เป็นที่ตั้งของตลาด Portobello เทศกาลคาร์นิวัล (และมีชื่อเสียงระดับโลก) ในชื่อเดียวกัน และร้านอาหารทันสมัยหลายแห่ง แต่ไม่ควรมองข้ามบ้านสีพาสเทลที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น เพราะอาคารที่ผสมผสานกันนั้นเป็นจุดเด่นของพื้นที่

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Visit London »